10 อันดับรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยกับราคาที่จับต้องได้

28 มิถุนายน 2021 | ไม่มีหมวดหมู่

ในปัจจุบันกระแสความนิยมของรถยนต์ไฟฟ้าเป็นที่นิยมกันมากในวงการรถยนต์ของโลก ส่งผลให้ยอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่องเพื่อลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงและยังช่วยให้สภาพแวดล้อมของโลกดีขึ้นอีกด้วย

ใครที่กำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้ามาใช้งานและต้องการที่จะขายรถที่ใช้งานอยู่เพื่อเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามาขายรถกับเรา Sell2Car เป้นอีกหนึ่งทางเลือกที่ใครต้องการขายรถนึกถึง

วันนี้ Sell2Car รวบรวม 10 อันคับรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าและมีราคาที่ไม่แพงมานำเสนอ

  1. Takano TTE 500 Full Electric เป็นรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าแบรนด์ญี่ปุ่นที่ผลิตในเมืองไทย เป็นรถ EV ที่มีขนาดเล็กที่มีราคาถูก สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบทั้งเป็นรถเพื่อการพาณิชย์ หรือจะเป็นรถใช้ในครอบครัวก็ได้ ราคาอยู่ที่ 388,000 บาท ตัวรถจะเป็นทรงรถกระบะขนาดเล็ก ที่มีขนาดตัวถังความยาวอยู่ที่ 3,250 มม. ความกว้าง 1,480 มม. สูง 1,490 มม. และมีฐานล้อยาว 2,150 มม. ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุดอยู่ที่ AC 5.5 Kw/72V มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 11 Kw/h สามารถวิ่งได้ถึง 100-120 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง ในการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง จะใช้เวลาเพียง 6 ชั่วโมง เท่านั้น ส่วนความเร็วสูงสุดนั้นจะอยู่ที่ 60 กม./ชม. หรือประมาณ 6.7 แรงม้านั้นเอง

2. FOMM One เป็นรถไฟฟ้า 4 ที่นั่ง ที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก เหมาะสำหรับใช้งานในเมืองมาก ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ In-wheel ขนาด 5 kW จำนวน 2 ตัว ให้แรงบิดรวมสูงสุด 560 นิวตัน-เมตร สามารถชาร์จไฟจนเต็ม (0-100%) ในเวลา 6 ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ระยะทางมากถึง 160 กิโลเมตร และสามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 80 กม./ชม. ให้กำลังสูงสุด 13 แรงม้า ราคาอยู่ที่ 664,000 บาท

3. MG EP  รถสไตล์สเตชั่นแวกอนที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกในประเทศไทย ที่มาพร้อมแนวคิด “EVeryone ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชัน รถยนต์พลังงานไฟฟ้าของทุกคน” แบตเตอรี่ที่มีความจุขนาด 50.3 kWh ทำให้วิ่งได้ไกลถึง 380 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (ทดสอบตามมาตรฐานความประหยัดพลังงาน New European Driving Cycle – NEDC) และมีมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงที่ 163 แรงม้า พร้อมแรงบิด 260 นิวตัน-เมตร ทำงานร่วมกับเกียร์ไฟฟ้า สามารถทำอัตราเร่ง 0-100  ได้ภายใน 8.8 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 185 กิโลเมตร/ชั่วโมง มาพร้อมรูปแบบการขับขี่ทั้งหมด 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Normal โหมด Eco และ โหมด Sport สามารถชาร์จไฟฟ้าได้ 2 แบบ คือ Quick Charge แบบ DC ผ่านหัวชาร์จประเภท CCS Combo 2 โดยชาร์จพลังงานตั้งแต่ 0 – 80% ในระยะเวลาประมาณ 40 นาที และ Normal Charge แบบ AC ชาร์จพลังงานตั้งแต่ 0 – 100% ผ่าน MG Home Charger ที่เป็นหัวชาร์จ TYPE II ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง 15 นาที ราคาอยู่ที่ 988,000 บาท

4. BYD T3 รถตู้ไฟฟ้าสำหรับงานในเชิงพาณิชย์โดยเฉพาะ ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง AC Permanent Magnet Synchronous Motor ให้กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 70 กิโลวัตต์ (94 hp) ให้แรงบิดสูงสุดถึง 180 นิวตัน-เมตร ใช้แบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงที่คิดคนและผลิตขึ้นเอง แบบ BYD NCM Battery มีความจุ 50.3 kWh สามารถรองรับการชาร์จไฟได้ทั้ง 2 ระบบ แบบ DC สามารถชาร์จได้ถึง 40 kw ใช้เวลาเพียง 1.3 ชั่วโมง/ครั้ง และแบบ AC ชาร์จได้ 6.6 kW  ใช้เวลา 7.6 ชั่วโมง/ครั้ง สามารถขับได้ไกลถึง 300 กม. ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 999,000 บาท

5. MG ZS EV  เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของค่ายเอ็มจีที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% ที่มีดีไซต์โดดเด่น มาในรูปแบบฉบับรถยนต์ SUV มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นแบบ PM synchronous motor ที่ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร ติดตั้งแบตเตอรี่ Lithium-ion จำนวน 3 แผง บริเวณพื้นตัวถังรถ สามารถใช้งานได้ 428 กิโลเมตร (ความเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม.) ที่ชาร์จไฟติดตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าตรงสัญลัษณ์ MG บนกระจังหน้ารถ หัวชาร์จแบบ Type-II ใช้เวลา 6 ชม. และ หัวชาร์จแบบ Quick Charge ใช้เวลา 30 นาที ระดับแบตเตอรี่ 80% ราคาอยู่ที่ 1.19 ล้านบาท

6. NISSAN LEAF ใหม่ ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นแบบ AC Synchronous electric motor ให้พละกำลังสูงสุดอยู่ที่ 150 แรงม้า ที่ 3,283 – 9,795 รอบต่อนาที ซึ่ง NISSAN LEAF รุ่นก่อนหน้านี้ให้พละกำลังอยู่ที่ 109 แรงม้า จะมากกว่าเดิมถึง 38 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร ที่ 0 – 3,283 รอบต่อนาที มาพร้อมแบตเตอรี่แบบ Li-ion battery ความจุ 40 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Single Speed ปล่อย CO2 0g./km, (Zero Emission) ใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุด 400 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และยังชาร์จได้ตามใจชอบตั้งแต่ชาร์จปกติแบบ 8 ชั่วโมง (6kW) กับชาร์จแบบ 16 ชั่วโมง (3kW) และยังเอาใจสำหรับคนที่ชอบความรวดเร็วด้วยการชาร์จด่วนแบบ 40 นาที (ชาร์จ 80%) หรือที่เรียกว่า Quick Charging นั่นเอง ราคาอยู่ที่ 1.49 ล้านบาท

7. Hyundai KONA Electric SEL ฮุนได โคน่า อิเล็คทริก เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ B-Segment SUV ที่ให้พลังงาน 64 กิโลวัตต์ชั่วโมง ขับต่อเนื่องได้ไกลถึง 482 กิโลเมตร ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดสูงถึง 395 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรใช้เวลาเพียง 7.6 วินาที เจ้าโคน่าจะมี 2 รุ่นที่จำหน่ายอยู่ในประเทศไทย ในรุ่น Hyundai KONA SE ราคาจะอยู่ที่ 1.84 ล้านบาท ในรุ่น Hyundai KONA SEL 2.25 ล้านบาท

8. MINI Cooper SE เป็นรถยนต์ EV รุ่นแรกของมินิ ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของตัวถังแบบ Hatch 3 ประตู (F56) โดยใช้ชุดมอเตอร์ไฟฟ้าจากรุ่น i3 แต่ปรับมาใช้เป็นขับเคลื่อนแบบล้อหน้าตามสไตล์มินิ กำลังสูงสุด 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100กม./ชม. ในระยะเวลา 7.3 วินาที แบตเตอรี่มีขนาด 36.2 kWh สามารถวิ่งต่อเนื่องได้สูงสุดที่ 235-270 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง โดยแบตเตอรี่จะวางไว้ใต้องท้องรถเป็นรูปแบบตัว T การชาร์จแบบ AC กระแสสลับ ผ่านชุดวอลล์ ชาร์จ ที่มีกำลัง 11 kW จะสามารถชาร์จจาก 0-80% ได้ในเวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง และเต็ม 100% ใน 3 ชั่วโมงครึ่ง แต่หากใช้เครื่องชาร์จที่มีกำลัง 7.4 kW จะใช้เวลา 4 ชั่วโมงครึ่งในการชาร์จเต็ม 100% ส่วนการชาร์จด้วยชุดชาร์จเร็วกระแสตรง (DC Fast Charge) รองรับที่กำลังสูงสุด 50 kW สามารถชาร์จจาก 0-80% ภายใน 35 นาที ราคาอยู่ที่ 2.29 ล้านบาท

9. KIA SOUL EV รถยนต์ EV รถ SUV แบบ HACTHBACK 5 ประตู จาก KIA Soul แต่ปรับเปลี่ยนระบบการขับเคลื่อนต่างๆ รวมถึงแบตเตอรี่แบบ  Lithium-ion Polymer Battery (LIPO) 64 kWh มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet AC Synchronous ขนาด 356 โวลต์ กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิด 395 นิวตันเมตร สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 167 กิโลเมตรต่อชั่วโมงสามารถวิ่งได้ 452 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ระยะเวลาในการชาร์จไฟ Quick Charge DC 100 kW จาก 0-80% ภายใน 54 นาที Quick Charge DC 50 kW จาก 0-80% ภายใน 75 นาที Normal Charge Wallbox AC 7.2 kW จาก 0-100% ภายใน 9 ชั่วโมง 35 นาที Normal Charge Home Plug AC 2.6 kW จาก 0-100% ภายใน 31 ชั่วโมง ราคาอยู่ที่ 2,387,000 บาท

10. VPLVO XC40 เอสยูวีพลังไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของแบรนด์ ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไออน 78 กิโลวัตต์ชั่วโมงที่พัฒนาขึ้นใหม่ที่ใช้เวลาชาร์จไฟจาก 0-100% เพียง 6-8 ชั่วโมงด้วยเครื่องชาร์จไฟมาตรฐานขนาด 11 กิโลวัตต์ (Wall-Box EV Changer) และสามารถเลือกใช้ระบบชาร์จเร็วได้ซึ่งช่วยให้ชาร์จทันใจขึ้นมาก โดยชาร์จไฟได้ถึง 80% ในเวลาเพียง 40 นาที และเมื่อชาร์จเต็ม 100% จะสามารถวิ่งได้ไกลถึง 400 กิโลเมตร (ตามมาตรฐานการทดสอบ WLTP) และทำแรงบิดสูงสุด 660 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. ในเวลา 4.9 วินาที และทำความเร็วสูงสุด 180 ก.ม./ช.ม. มาพร้อมราคาเปิดตัวที่ 2.59 ล้านบาท

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " 10 อันดับรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยกับราคาที่จับต้องได้ "